เกาะหลีเป๊ะ เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย ด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และบรรยากาศที่เงียบสงบ การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะอาจฟังดูเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนเนื่องจากที่ตั้งที่อยู่ห่างไกล แต่ในความเป็นจริง มีวิธีการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วมากมายให้เลือก ทางเราได้รวบรวมทุกวิธีในการเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ พร้อมแนะนำเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
1. การเดินทางโดยเครื่องบิน
การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะที่รวดเร็วที่สุดคือการใช้เครื่องบิน โดยคุณสามารถบินไปลงที่สนามบินหาดใหญ่หรือสนามบินตรัง ซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้เกาะหลีเป๊ะมากที่สุด จากนั้นต่อด้วยรถยนต์และเรือ
สนามบินหาดใหญ่
สนามบินหาดใหญ่เป็นสนามบินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ เนื่องจากมีสายการบินให้บริการมากมาย และเที่ยวบินหลากหลาย สามารถเลือกบินจากกรุงเทพฯ ได้โดยตรง การเดินทางจากสนามบินหาดใหญ่ไปยังท่าเรือปากบารานั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที และจากท่าเรือปากบารา คุณสามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะหลีเป๊ะได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
สนามบินตรัง
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะคือการบินมาลงที่สนามบินตรัง ซึ่งอาจมีเที่ยวบินน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหาดใหญ่ แต่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สะดวก การเดินทางจากสนามบินตรังไปท่าเรือปากบาราจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และการนั่งเรือจากท่าเรือไปเกาะหลีเป๊ะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
2. การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถตู้
สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเดินทาง การขับรถยนต์ส่วนตัวหรือการเช่ารถตู้เป็นตัวเลือกที่ดี คุณสามารถขับรถจากกรุงเทพฯ หรือตัวเมืองหาดใหญ่ไปยังท่าเรือปากบาราได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจากหาดใหญ่ และประมาณ 14 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพฯ มีเส้นทางหลายเส้นให้เลือก แต่เส้นทางที่ได้รับความนิยมคือเส้นทางถนนเพชรเกษม (หมายเลข 4) ซึ่งเป็นทางที่สะดวกและใช้เวลาไม่นาน
3. การเดินทางโดยรถทัวร์
หากคุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การเดินทางโดยรถทัวร์ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า โดยคุณสามารถขึ้นรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปยังหาดใหญ่ได้ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 14 ชั่วโมง เมื่อถึงหาดใหญ่แล้ว คุณสามารถต่อรถตู้หรือรถแท็กซี่ไปยังท่าเรือปากบารา และขึ้นเรือไปยังเกาะหลีเป๊ะ
นอกจากนี้ยังมีบริการรถทัวร์จากสถานีขนส่งสายใต้ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ – จุดจอดละงู และต่อรถสองแถวไปท่าเรือปากบารา รถทัวร์เหล่านี้จะให้บริการทุกวัน และราคาตั๋วค่อนข้างประหยัด
4. การเดินทางโดยรถไฟ
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะคือการนั่งรถไฟ โดยคุณสามารถขึ้นรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปยังสถานีหาดใหญ่ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง เมื่อถึงสถานีหาดใหญ่ คุณสามารถต่อรถตู้หรือแท็กซี่ไปยังท่าเรือปากบาราเพื่อขึ้นเรือสปีดโบ๊ทไปเกาะหลีเป๊ะ
รถไฟเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการการเดินทางที่สะดวกสบายและไม่รีบร้อน อีกทั้งยังมีบริการที่นอนบนรถไฟ ทำให้การเดินทางในช่วงกลางคืนไม่เหนื่อยล้า
5. การเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ท
การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะด้วย เรือสปีดโบ๊ท เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกที่สุดในการเข้าถึงเกาะ โดยจะมีบริการเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือปากบาราให้บริการทุกวัน ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
เรือสปีดโบ๊ทจะให้บริการในช่วงเช้าและบ่าย โดยสามารถจองตั๋วล่วงหน้าผ่านทาง akiraspeedboat นอกจากนี้ยังมีบริการเรือเที่ยวพิเศษสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
รวมวิธีการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด
การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะนั้นมีหลากหลายวิธี แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วที่สุด ลองพิจารณาเส้นทางเหล่านี้ดู
1. โดยเครื่องบิน + รถตู้ + เรือสปีดโบ๊ท
- ข้อดี: รวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย
- เส้นทาง:
- กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ (โดยเครื่องบิน)
- หาดใหญ่ – ท่าเรือปากบารา (โดยรถตู้)
- ท่าเรือปากบารา – เกาะหลีเป๊ะ (โดยเรือสปีดโบ๊ท)
- ข้อควรพิจารณา: ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่แลกมากับความสะดวกสบาย
2. โดยรถทัวร์ + รถสองแถว + เรือสปีดโบ๊ท
- ข้อดี: ค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน
- เส้นทาง:
- กรุงเทพฯ – สตูล(อำเภอละงู) (โดยรถทัวร์)
- สตูล(อำเภอละงู) – ท่าเรือปากบารา (โดยรถสองแถว)
- ท่าเรือปากบารา – เกาะหลีเป๊ะ (โดยเรือสปีดโบ๊ท)
- ข้อควรพิจารณา: ใช้เวลานานกว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- จองตั๋วล่วงหน้า: ควรจองตั๋วเครื่องบินและเรือสปีดโบ๊ทล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว เพื่อความสะดวกและราคาที่คุ้มค่า
- เลือกบริษัทเรือที่น่าเชื่อถือ: เลือกบริษัทเรือที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
- เตรียมตัวให้พร้อม: เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับอากาศร้อน หมวกกันแดด ครีมกันแดด และอุปกรณ์ดำน้ำตื้น หากต้องการ
สำรองที่นั่ง/ตั๋วเรือ (ไป-กลับ)ล่วงหน้า ที่นี้เลย
- Facebook : ไปหลีเป๊ะ จองรถจองเรือ อาคีราสปีดโบ๊ท
- Tel.098-1616162-4
- Line@: @gotolipe
- https://www.akiraspeedboat.com/
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ
การเลือกช่วงเวลาเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะนั้นขึ้นอยู่กับความชอบและเป้าหมายในการท่องเที่ยวของคุณ โดยเกาะหลีเป๊ะมี 2 ฤดูหลักๆ คือ
1. ฤดูท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น: เดือนตุลาคม – เดือนพฤษภาคม
- ข้อดี:
- สภาพอากาศ: อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ทะเลสงบ เหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำทุกชนิด เช่น ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก พายคายัค
- บรรยากาศ: เกาะหลีเป๊ะคึกคัก มีร้านอาหาร บาร์ และกิจกรรมต่างๆ มากมายให้เลือก
- ที่พัก: มีที่พักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่แบบประหยัดไปจนถึงหรูหรา
- ข้อเสีย:
- ราคา: ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะสูงกว่าช่วงโลว์ซีซั่น
- นักท่องเที่ยว: มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก อาจรู้สึกแออัดบ้างในบางจุด
2. ฤดูท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น: เดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน
- ข้อดี:
- ราคา: ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกกว่าช่วงไฮซีซั่น
- บรรยากาศ: เกาะหลีเป๊ะเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง
- ข้อเสีย:
- สภาพอากาศ: มีฝนตกชุก คลื่นลมแรง อาจไม่เหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำบางประเภท
- ร้านค้าและที่พัก: บางร้านค้าและที่พักอาจปิดให้บริการ
สรุปแล้ว เที่ยวหลีเป๊ะช่วงเวลาไหนดีที่สุด?
- ถ้าคุณต้องการ:
- ความคึกคักและกิจกรรม: ให้เลือกเที่ยวช่วงไฮซีซั่น (ตุลาคม – พฤษภาคม)
- ความสงบและราคาถูก: ให้เลือกเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น (มิถุนายน – กันยายน)
- หลีกเลี่ยงฝนและคลื่นลม: ให้เลือกเที่ยวช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน หรือเดือนตุลาคม – ธันวาคม
เคล็ดลับ: หากคุณต้องการสัมผัสทั้งความคึกคักและความสงบ ลองวางแผนเดินทางในช่วงปลายเดือนเมษายน หรือช่วงเดือนกันยายนดูค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ช่วงวันหยุดยาว: ราคาที่พักและค่าใช้จ่ายต่างๆ จะสูงขึ้น ควรจองล่วงหน้า
ติดตามพยากรณ์อากาศ: ก่อนเดินทางควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่าสุด เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
𝗕𝗢𝗢𝗞 𝗡𝗢𝗪
- [email protected]
- Call : +66 913013011 , +66 913013012
- Facebook : Akira Lipe
- LINE Official: @akiralipe